ศิลปะบำบัด ฝึกสมาธิ ปรับอารมณ์



ศิลปะ เป็นคำที่มีความหมายทั้งกว้างและจำเพาะเจาะจง ทั้งนี้ย่อมแล้วแต่ทัศนะของนักปราชญ์แต่ละคน รวมทั้งความเชื่อแนวคิดในแต่ละยุคแต่ละสมัย มีความแตกต่างกัน หรือแล้วแต่ว่าจะนำศิลปะไปใช้ในแวดวงที่กว้างขวางหรือจำกัดอย่างไร แต่จากทัศนะของนักปราชญ์ทั้งหลายจะเห็นว่าศิลปะมีคุณลักษณะ ที่เป็นตัวร่วม สำคัญที่สุด ประการหนึ่ง คือ การแสดงออก ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ ความรู้สึก ความคิด ประสบการณ์ ความงามการเห็นแจ้ง สัญลักษณ์ ความเป็นเรื่องราวหรือเหตุการณ์ ก็ล้วนแต่เป็นการแสดงออกโดยมนุษย์เป็นผู้เลือกสรรหรือสร้างสรรค์ขึ้นทั้งสิ้น ดังนั้น จึงพอจะให้ความหมายของศิลปะในแนวกว้างๆ ได้ดังนี้

ศิลปะ คือ สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อแสดงออกซึ่งอารมณ์ ความรู้สึก ปัญญา ความคิดและหรือ ความงามทั้งนี้จะกล่าว โดยรวมก็คือ ศิลปะ จะประกอบไปด้วยส่วนประกอบ 3 ประการ คือ

1. มีความงาม
2. มีจุดมุ่งหมายที่แน่นอน
3. มีความคิดสร้างสรรค์

เหตุที่จำกัดวงอยู่เฉพาะผลิตผลของมนุษย์อาจเป็นเพราะว่าในบรรดาสัตว์โลกด้วยกัน มนุษย์เป็นสัตว์ประเภทเดียวที่สามารถสร้างสื่อในการทำความเข้าใจร่วมกันดีที่สุดและการดำเนินชีวิตก็มีการพัฒนาไปเป็นระบบ สิ่งเหล่านี้นับเป็นสาเหตุหนึ่งที่มนุษย์ ยกย่องความเป็นสัตว์โลกของตนว่าเป็นประเภทที่เหนือกว่าสัตว์โลกประเภทใด

ดังนั้น รูปร่างลักษณะหรือผลงานสร้างสรรค์จากสิ่งต่างๆ ที่มิใช่ผลงานของมนุษย์ รวมทั้งปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มี ความสลับซับซ้อน มีความสวยงาม มีรูปทรงแปลกตา แม้มนุษย์จะมีความชื่นชมแต่ก็ไม่ยอมรับว่าเป็นผลงานศิลปะ แต่หากมนุษย์ใช้แรงบันดาลใจจากสิ่งเหล่านั้นมาสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ถือว่าเป็น “ศิลปะ”


ศิลปะพัฒนาสุขภาพจิต

ศิลปะไม่ใช่แค่เพียงศาสตร์แขนงหนึ่งที่ว่าด้วยเรื่องของความงดงาม ความคิดสร้างสรรค์ และการปลดปล่อยจิตวิญญาณเท่านั้น แต่ศิลปะยังช่วยให้ผู้ทำหรือผู้ดูเกิดความรู้สึกอิ่มเอมและเบิกบานใจได้ด้วย และเพราะความเบิกบานใจที่ได้จากศิลปะนี่เองที่ทำให้ศิลปะกลายมาเป็นศาสตร์หนึ่งที่ช่วยในการบำบัด รักษาโรคได้ โดยเฉพาะการบำบัดสุขภาพจิต ในแวดวงวิชาการเรียกศาสตร์ทางด้านนี้ว่าศิลปะบำบัดหรือ Art Therapy โดยใจความสำคัญของเรื่องนี้คือการนำเอาศิลปะมาใช้เพื่อแสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึกที่มีทั้งแง่บวกและแง่ลบ ถ้าเป็นแง่บวกก็ดีไปแต่สำหรับแง่ลบอาจจะแสดงอารมณ์ที่ส่งผลร้ายต่อตัวเองและคนรอบข้างได้ เช่นการแสดงอารมณ์รุนแรง ก้าวร้าว ซึ่งในจังหวะนี้เองที่ศิลปะบำบัดจะเข้ามาเป็นเครื่องมือช่วยระบายอารมณ์แง่ลบออกมาโดยไม่เดือดร้อนผู้อื่น
ในปัจจุบันพ่อแม่จำนวนไม่น้อยสนใจเรื่องศิลปะบำบัดมากขึ้น เพราะเจอปัญหาลูกไม่น่ารัก ซึ่งศิลปะจะเข้าไปช่วยกล่อมเกลาจิตใจ สร้างสมาธิ และพัฒนาอารมณ์และนิสัยของเด็กที่มีพฤติกรรมแง่ลบในรูปแบบต่างๆ ได้มาก


ศิลปะบำบัด

พัฒนาสุขภาพจิต สร้างเสริมความคิด โดยกระบวนการทางศิลปะบำบัดนั้นจะช่วยดูแลสภาพจิตใจของคนเราได้อย่างไรบ้าง?

1. เกิดความคิดสร้างสรรค์ ความคิดสร้างสรรค์ หมายถึง ลักษณะของความคิดที่มีหลายมิติ สามารถคิดได้กว้างไกล ไร้กรอบและขอบเขต ประกอบด้วย ความคิดริเริ่ม ช่วยให้มีความคิดแปลกใหม่เกิดการนำความรู้เดิมมาดัดแปลงให้เกิดเป็นสิ่งใหม่ ความคล่องแคล่ว ช่วยให้เกิดความคิดที่รวดเร็ว ไม่ซ้ำในเรื่องเดียวกัน ไม่หมกมุ่น นำมาซึ่งการพูดและการกระทำที่คล่องแคล่ว ความยืดหยุ่น ช่วยให้เกิดความคิดที่หลากหลายมุมมอง ไม่ยึดติด ไม่ซ้ำรูปแบบกรอบความคิดแบบเดิมๆ ความละเอียดลออ ช่วยให้มีความพิถีพิถันในการทำสิ่งต่างๆ ช่างสังเกตในสิ่งที่คนอื่นมองข้าม

2. ช่วยแก้ปัญหาทางอารมณ์และจิตใจ ศิลปะจะทำให้ผู้ที่มีปัญหาทางอารมณ์และจิตใจได้ระบายความคับข้องใจหรือความรู้สึกที่ซุกซ่อนอยู่ในใจผ่านงานด้านศิลปะอันหลากหลาย จึงช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย ลดความขุ่นมัวในใจ เข้าใจและรับรู้อารมณ์ต่างๆ ของตนเองได้ดีขึ้น สามารถยับยั้งและควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้นด้วย

3. เสริมสร้างทักษะสังคม โดยการทำกิจกรรมศิลปะร่วมกันเป็นกลุ่ม ทำให้รู้จักการรอคอย ผลัดกันทำและได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้ที่จะแสดงอารมณ์ ความรู้สึก ความคิด ความต้องการของตนเอง และสามารถเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นผ่านงานศิลปะ

4. ทำให้กล้ามเนื้อมีการพัฒนาและการเคลื่อนไหวที่ดี ศิลปะตอบสนองการเคลื่อนไหวของร่างกายอย่างมีอิสระและเป็นธรรมชาติ ซึ่งจะทำให้เกิดการเรียนรู้และการพัฒนาของกล้ามเนื้อ โดยสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและบรรลุเป้าหมายที่วางไว้


การประยุกต์ใช้ศิลปะบำบัดในชีวิต
ทั้งนี้จากข้อมูลของศิลปะบำบัดในประเทศไทยพบว่า ส่วนใหญ่มักถูกมองเป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับผู้ที่มีปัญหาทางด้านจิตใจ โดยเฉพาะกับเด็กพิเศษหรือเด็กที่เป็นออทิสติก สมาธิสั้น แถมยังถูกนำมาใช้ประโยชน์น้อยมากทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ซึ่งต่างกับในต่างประเทศที่ได้มีการนำศิลปะบำบัดมาใช้อย่างแพร่หลาย แม้กระทั่งกับบุคคลทั่วไป เพราะเขาถือว่าศิลปะบำบัดเป็นการระบายออกทางอารมณ์ที่ดีทางหนึ่ง และตามความเป็นจริงแล้วศิลปะบำบัดไม่ได้เป็นเครื่องมือเพื่อใช้รักษาผู้ป่วยเท่านั้น แต่กับคนปกติเองไม่ว่าจะเป็นวัยใดหรือเพศใดก็สามารถนำศิลปะบำบัดมาใช้ประโยชน์ได้กับชีวิตและจิตใจเช่นเดียวกัน

“Art Therapy”
อีกนัยหนึ่งคือศิลปะบำบัดนั้นเป็นการนำศิลปะมาใช้เพื่อแสดงอารมณ์ความรู้สึกทั้งในแง่บวกและแง่ลบก็ได้ โดยเฉพาะในยามที่มีการกระทำก้าวร้าวแบบสุดๆ ในช่วงจังหวะนี้แหละที่กระบวนการทางศิลปะบำบัดจะเข้ามาช่วยทำให้บุคคลนั้นได้ระบายอารมณ์ร้ายๆ แบบที่ไม่ต้องไปทำให้ใครเดือดร้อน

งานศิลปะจึงเป็นศาสตร์วิชาแขนงหนึ่งที่นับว่าให้ประโยชน์อย่างมากหากรู้จักนำมาใช้ให้ถูกต้อง วันว่างในครั้งหน้าลองพาตัวเองและคนในครอบครัวไปร่วมกันวาดภาพแต่งแต้มสีสันตามความชอบและความถนัดกันดูสิ แล้วคุณจะได้รู้ว่าคนรอบตัวหรือแม้แต่ตัวเราเองกำลังคิดอะไรอยู่